ฉันรักที่จะยืนอยู่ตรงนี้
ตกหลุมรักกับเวที
ท่ามกลางเสียงเชียร์
และการปรบมือเหล่านั้น
ที่มีให้ฉันทุกอย่างคือความเร่าร้อน
ต้องซ้อมต้องยากลำบากเพียงใด
กว่าฉันจะได้ก้าวผ่านกำแพงนี้ไป
จนถึงนาทีที่ฝัน
เมื่อผ้าม่านนั้นเปิดให้ฉันแสดง
เป็นคนเต้นไม่เป็น
คนเดียวที่ไม่ทัน
ร้องไห้ตอนกลับบ้าน
ซ้ำอยู่อย่างนั้นตั้งกี่ครั้ง
ร้องเพลงไม่เอาไหน
ทำไม่ได้ดั่งใจ
ในบางวันก็สูญเสีย
ทุกความมั่นใจไปมากมาย
คนอื่นๆเมื่อมองไปเมื่อไร
ก็ดูจะเปล่งประกายกว่าฉัน
ความฝันต้องเกิดหยาดเหงื่อจึงได้มา
ใช้เวลาและค่อยเป็นค่อยไป
ดอกไม้จึงบาน
คำว่าพยายาม
ไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ
ความฝันเท่ากับหยาดเหงื่อรินรดไป
เพื่อให้เหล่าเมล็ดพันธุ์
นั้นเติบโตและสูงใหญ่
และคงต้องมีสักวัน
จะได้ดั่งใจสมปรารถนา
ไฟบนเวทีและสปอตไลท์
เปลี่ยนค่ำคืนที่มืดลงไปให้โลกทั้งใบ
คืนมาซึ่งความสดใส
เหมือนแสงอาทิตย์สว่างในใจของฉัน
รุ่นพี่สร้างไว้ได้ดีแค่ไหน
แต่ฉันก็จะสร้างสิ่งใหม่ให้ดียิ่งกว่า
ด้วยโชว์ที่สะดุดตา
และได้ชื่อว่าเป็นโชว์ของฉันเอง
วันที่ต้องหยุดพัก
เพราะร่างกายรับไม่ไหว
วันที่ต้องเจ็บใจ
จนแอบไปสะอื้นกี่ครั้ง
ไปโรงเรียนอยู่แล้ว
ซ้อมก็ยังต้องไป
ภาระในจิตใจ
เริ่มจะหนักเกินไปทุกๆวัน
แล้วจู่ๆเสียงก้องในใจ
อังกอร์จากใครกำลังเรียกฉัน
ความฝันเริ่มจากหยาดเหงื่อและน้ำตา
เหมือนยิ้มจากดอกไม้
ที่งดงามยามที่ฝนซา
ผลิบานไม่โรยรา
เพราะมีวันนี้ด้วยความพยายาม
ความฝันนั้นเป็นบ่อเกิดแห่งน้ำตา
ที่ไม่เคยจะยอมแพ้ต่อเภทภัย
ลมฝนกระหน่ำ
และคำวิงวอนทุกอย่าง
จะส่งให้บนฟ้าได้รับรู้
เต้นกันสุดชีวิตทุ่มเทลงไป
ร้องกันสุดชีวิตสื่อด้วยหัวใจ
เพราะรักจริงใช่ไหมจงอย่าลืมมัน
ใส่ลงไปทุกอย่างมีแรงเท่าไร
Oh
ความฝันต้องเกิดหยาดเหงื่อจึงได้มา
ใช้เวลาและค่อยเป็นค่อยไป
ดอกไม้จึงบาน
คำว่าพยายาม
ไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ
ความฝันเท่ากับหยาดเหงื่อรินรดไป
เพื่อให้เหล่าเมล็ดพันธุ์
นั้นเติบโตและสูงใหญ่
และคงต้องมีสักวัน
จะได้ดั่งใจสมปรารถนา